อ้อเป็นอย่างนี้นี่เอง

วันนี้นานาสาระฮา เรื่องเล่าที่เป็นสาระแนวคิด ในการตัดสินใครบางคนเพียงคำพูดไม่กี่คำ หรือฟังเขามา

     หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ  หญิงสาวละอายที่จะบอกความจริงกับพ่อแม่
พ่อแม่จึงบังคับให้ลูกสารภาพ ให้บอกว่าใครเป็นพ่อของเด็ก
หญิงสาวทนพ่อแม่บีบคั้นไม่ไหว จึงบอกว่า พ่อของเด็กเป็นพระอาวุโสรูปหนึ่งในวัดใกล้บ้าน
เมื่อหญิงสาวคลอดเด็กออกมา คนที่บ้านก็เอาเด็กไปหาพระอาวุโส
พระอาวุโสรูปนี้บอกเพียงว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” แล้วก็รับเด็กไว้
หลังจากนั้น พระอาวุโสก็อุ้มเด็กไปบิณฑบาตตามหมู่บ้าน ทุกวัน
คนทั้งหมู่บ้านเป็นเดือดเป็นแค้น ด่าพระอาวุโสรูปต่างๆ นานา หยาบคาย

      ผ่านไป 1 ปี สาวทนไม่ไหว จึงสารภาพกับพ่อแม่ว่า พ่อของเด็กเป็นชายอีกคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับพระอาวุโสรูปนี้เลย หญิงสาวและคนในครอบครัวละอายใจมาก จึงไปพบพระอาวุโสรูปนี้ จึงพบพระท่านโทรมมาก แต่เด็กกลับอ้วนๆ ขาวๆ เป็นที่น่ารักมาก เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี
หญิงสาวรู้สึกผิดมาก จึงขอโทษพระอาวุโส
พระอาวุโสรูปนี้  พูดเพียงว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”

   พระอาวุโสรูปนี้ถูกกล่าวหาจนชื่อเสียงป่นปี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ไม่ได้แก้ตัวเลย เพราะอะไร ?
พระอาวุโสรูปนี้บอกว่า “บวชเป็นพระ ชื่อเสียงเงินทองต่างเป็นของนอกกาย คนเข้าใจผิด ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อาตมาช่วยสาวให้พ้นวิกฤตได้ ช่วยชีวิตของเด็กทารกได้ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง”

   ตอนคนอื่นเข้าใจเราผิด เราต้องใช้เวลามากในการอธิบายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเรา แต่ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครยอมฟัง ไม่มีใครเชื่อ คนเราจะเชื่อกับข้อมูลที่ได้รับมาครั้งแรก โดยไม่ค่อยพิจารณาว่า ความจริงเป็นเช่นไร ใช้หลักจากการรับรู้ของตัวเอง เข้าใจและตัดสิน คนทุกคนล้วนแต่ดื้อรั้น

   คนที่เขาเข้าใจคุณ ก็จะเข้าใจคุณตั้งแต่แรก จนถึงตลอดไป ไม่ใช่ฟังคุณพูดครั้งเดียวก็เข้าใจคุณ
แทนที่จะพยายามด้วยความเจ็บปวดที่จะเปลี่ยนคำตัดสินใจของอื่น สู้รับแล้วให้เวลาคนอื่น ให้เวลาตัวเอง ไม่เสียเวลาในการแก้ตัวที่ไร้ประโยชน์ ไปทำอะไรที่มีประโยชน์ในระยะยาวดีกว่า

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แบ่งปันความฮา มีเรื่องฮาๆเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ได้ที่นี่ครับ